บทเฝ้าเดี่ยวประจำสัปดาห์@วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน 2022

ออกกำลัง ฝ่ายจิตวิญญาณ

เพราะถ้าการฝึกทางกายมีประโยชน์อยู่บ้าง ทางพระเจ้าก็มีประโยชน์ทุกด้าน เพราะมีพระสัญญาสำหรับชีวิตปัจจุบันและอนาคต คำกล่าวนี้สัตย์จริง และสมควรแก่การรับไว้อย่างยิ่ง การที่เราตรากตรำทำงานและทนสู้ ก็เพราะเรามีความหวังในพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์ ผู้เป็นพระผู้ช่วยให้รอดของทุกคน โดยเฉพาะบรรดาผู้ที่เชื่อในพระองค์

1 ทิโมธี 4:8‭-‬10

ตอนเป็นวัยรุ่นจะชอบเข้าห้องยกน้ำหนักเพราะเห็นฝรั่งยกแล้วกล้ามใหญ่ ดูบึกบึน แข็งแรง แต่เมื่อมองดูแขนเด็กไทยผอมๆอย่างเรา ไม่มีหวังเลย ถึงกระนั้นก็เข้าไปยกน้ำหนักอย่างเขา ยกมากขึ้น นานขึ้นด้วยความเชื่อว่า ยิ่งทนความหนัก ความเจ็บ ความเมื่อยมากแค่ไหน กล้ามเราก็คงจะยิ่งใหญ่ขึ้นบ้างขนาดนั้น

ความจริงนี้ไม่ต่างจากฝ่ายจิตวิญญาณขนาดไหนเลย คือการฝึกฝนทางพระเจ้า ฝึกเชื่อฟัง ฝึกวินัยอ่านพระคำ ฝึกตายต่อตัวเอง ฝึกจิตวิญญาณที่จะรับรู้เสียงของพระเจ้า ยิ่งฝึกเท่าไหร่ พระคำสัญญาว่าจะมีผลต่อทุกด้านในชีวิตของเรา รวมถึงการเงิน การเรียน ความสัมพันธ์ เพราะเมื่อเราปรับหางเสือของเรือ เรือทั้งลำก็เปลี่ยนทิศทาง เมื่อเราปรับจิตวิญญาณ ชีวิตทั้งชีวิตก็เปลี่ยนเช่นกัน พระคำหนุนใจให้เรารับไว้ เก็บไว้และทำตามเพราะ มีความ "สัตย์จริง"

การที่เราตรากตรำ ทำงาน สู้ทน เดินไปกับพระองค์ เชื่อฟัง รับใช้ ให้อภัย และรักศัตรูนั้น จะทำให้เรา "กล้ามใหญ่" ในความเชื่อ แบกน้ำหนักชีวิตได้มากกว่า ไม่กลัวปัญหาหนักๆ และยังสามารถช่วยแบกภาระของคนอื่นด้วย หากเราไม่ฝึกยกเลย ไม่ฝึกอดทน ไม่สู้ มัวแต่นั้งดูคริสเตียนคนอื่นสู้ เราอย่าหวังว่าความเชื่อเราจะเข้มแข็งขึ้น การมาโบสถ์นั้งฟังเทศน์เพิ่มเติมความรู้นั้นดี แต่ความเชื่อไม่ได้มาจากแค่การฟัง แต่รวมถึงการฝึก ที่จะเชื่อฟัง การลงทุน ออกแรง ยอมเสียเหงื่อฝ่ายจิตวิญญาณ เสี่ยงเดินตาม โดยรู้ว่าวันหนึ่งเราจะเป็นเหมือนกับพระเยซู

ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ให้เรายอมฝึกการเชื่อฟัง ลงทุนร่วมทุกข์ ยอมเสียเมื่อพระองค์ขอ ยอมให้เมื่อเราไม่มี ยอมขอโทษเมื่อเราไม่ผิด และยอมต่อพระเจ้าเมื่อเราไม่อยาก เพื่อเราจะค้นพบความเข้มแข็งฝ่ายจิตวิญญาณ และความเชื่อของเราที่กำลังจะเติบโต

อ. วาระ มีชูธน

คำถาม

1. ความอ่อนแอฝ่ายจิตวิญญาณมาจากสาเหตอะไร

2. เราจะออกกำลังกายฝ่ายจิตวิญญาณได้อย่างไร?

3. ขณะที่เราทนทุกข์ แบกน้ำหนักชีวิต เราควรจะมองที่ได ทำไม