บทเฝ้าเดี่ยวประจำสัปดาห์@วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2022

'และข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงขององค์เจ้านายตรัสว่า “เราจะใช้ผู้ใดไป? และผู้ใดจะไปแทนพวกเรา? ” แล้วข้าพเจ้าทูลว่า “ข้าพระองค์อยู่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด” '

อิสยาห์ 6:8

“มีใครอยากจะช่วยครูบ้าง” เป็นสิ่งที่ครูเปรยขึ้นมาเมื่อต้องการอยากรู้ถึงหัวใจของนักเรียนที่อยากจะช่วย เป็นการช่วยโดยที่ไม่มีข้อแลกเปลี่ยน เป็นการกระทำที่มาจากหัวใจ และเป็นการเสี่ยงโดยที่ไม่รู้ว่าจะให้ช่วยเรื่องอะไร นี่ไม่ใช่คำสั่งจากครู และไม่ใช่การเรียกเฉพาะเจาะจง แต่เป็นคำขอ และคำเชิญชวน เปิดโอกาสให้นักเรียนคนไหนก็ได้ ได้มีโอกาสทำในสิ่งที่ครูต้องการ ไม่จำเป็นจะต้องเป็นเด็กเรียนเก่ง หรือมาครบทุกวัน หรือเป็นนักเรียนคนสนิทของครู แต่เป็นคำเชื้อเชิญของครูต่อนักเรียนทุกคน คำเชิญที่มีความลึกลับอยู่ในนั้น ก็ย่อมมีความเสี่ยง ย่อมมีความไม่แน่นอน ทั้งๆที่มีคำถามเต็มไปหมด มีนักเรียนคนไหนอยากจะยกมือตอบกลับบ้าง?

ในพระวจนะคำอิสยาห์ พระเจ้าเปิดโอกาส ถามคำถามเชิญชวนแบบกว้าง ไม่มีคำบังคับ และไม่มีการบีบคั้น แต่เป็นคำเชิญแบบเปิดกว้างให้คนที่มีใจอยากรับใช้ อยากให้พระองค์ใช้เป็นเครื่องมือ คำเชื้อเชิญของพระองค์นั้น 1. เราจะใช้ผู้ใดไป? คนที่ตอบรับต้องมีความถ่อมใจมากพอที่จะเป็นคนที่ใช้ได้ และไปได้ในที่ที่พระองค์ใช้ 2. ผู้ใดจะไปแทนพวกเรา? คนที่จะตอบรับ จะต้องเป็นตัวแทนของพระองค์ หมายความว่ามีทัศนคติ หัวใจ เป้าหมายปลายทาง เหมือนกับที่พระองค์มี รักคนบาป วางชีวิตลงเพื่อคนอื่น และทั้งสองคำเชื้อเชิญของพระองค์ เป็นคำเชิญเปิด ให้ใครก็ได้ที่ให้พระองค์เป็นพระเจ้าในชีวิต จะสามารถตอบคำเชิญนี้ แล้วยอมเสี่ยงไปกับพระองค์

ถ้าโมเสสไม่ได้ตอบรับ การทรงเรียกของพระองค์ในพุ่มไม้ไฟ (อพยพ 3-4) พระเจ้าก็จะมีวิธีอื่นที่จะทำน้ำพระทัยของพระองค์ให้สำเร็จ แต่พระองค์ให้โอกาส โมเสส ได้ผจญภัยไปกับพระองค์ เห็นการอัศจรรย์ของพระองค์ และได้เป็นเครื่องมือของพระองค์ในการกู้ชนชาติของพระองค์ กษัตริย์ดาวิด เมื่อถูกเจิมโดยซามูเอล สามารถเลือกที่จะเดินตามน้ำพระทัยและเป็นกษัตริย์ของชนชาติ หรือจะสามารถกลับไปเลี้ยงแกะของพ่อเหมือนเดิม คำเรียกของพระองค์จึงเป็นคำเชื้อเชิญอย่างแท้จริง ไม่ได้บังคับ ไม่ได้เรียกร้อง อยู่ที่ว่าคุณจะตอบรับเสียงเชิญของพระองค์หรือไม่ คุณจะยอมเดินไปกับพระองค์เพื่อมีประสบการณ์ส่วนตัวกับพระองค์

อิสยาห์ตอบว่า “ข้าพระองค์อยู่นี่ ขอทรงใช้ข้าพระองค์เถิด” บ่งบอกทัศนคติของผู้เผยพระวจนะว่า เขาจะเสี่ยงรับโอกาสนี้ และจะเชื่อฟังด้วยถ่อมใจ ยอมตัวเองเป็นเครื่องมือของพระองค์ โดยไม่รู้เลยว่าพระองค์จะใช้เขาแบบไหน นี่คือทัศนคติเดียวกันที่อยากจะเห็นเกิดขึ้นกับสมาชิกในคริสตจักร มันง่ายที่จะร้องเพลงนมัสการแล้วยกมือ แต่เมื่อคำเชิญของพระองค์มาถึง ทำไมมือเรานั้นจึงหดกลับ มันง่ายที่จะเอ่ยปากอธิษฐานก่อนทานข้าว แต่เมื่อพระองค์ร้องเรียก ถามหา เสียงของเรากลับหายไปในสายลม ขอที่เราจะกล้า ตอบรับการเชิญของพระองค์ในชีวิตส่วนตัวของเรา แล้วเราจะได้ค้นพบ ความจริง ความรัก ความสัตย์ซื่อและความยิ่งใหญ่ของพระองค์

อาจารย์ วาระ มีชูธน

คำถาม

1. อะไรคือสาเหตุ/ ข้ออ้าง ที่ทำให้เรา ไม่กล้าตอบรับการทรงเรียกของพระองค์ ?

2. พระองค์เรียก คุย สื่อสารกับเราเป็นการส่วนตัว ผ่านช่องทางไหนในชีวิตของท่าน?

3. ทำไมเราตอบรับ คู่แต่งงานของเรา ลูกของเรา เจ้านายของเรา แต่ไม่ใช่พระเจ้าของเรา?