บทเฝ้าเดี่ยวประจำสัปดาห์@วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม 2022

'พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า “ถึงกระนั้นก็ดี บัดนี้ พวกเจ้าจงกลับมาหาเราด้วยสุดใจ ด้วยการอดอาหาร การร้องไห้ และการโอดครวญ จงฉีกใจของพวกเจ้า ไม่ใช่ฉีกเสื้อของเจ้า” จงกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน เพราะว่าพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและพระกรุณา พระองค์กริ้วช้าและบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และเปลี่ยนพระทัยไม่ลงโทษ ' โยเอล 2:12-13

ตั้งแต่เด็กๆ เมื่อเราทำผิด เรามักจะเก็บความผิดของเราแอบไว้เพราะเชื่อว่าเมื่อไหร่สารภาพความผิด คุณพ่อคุณแม่ก็จะโกรธ และเราเองก็จะต้องถูกลงโทษ เพราะฉะนั้นการยอมรับผิด หรือการสารภาพความผิด จึงไม่ได้เป็นนิสัยที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ เหมือนกับมนุษย์คู่แรกที่ทำผิด จึงต้องวิ่งไปแอบ

มีอยู่วันหนึ่ง คุณพ่อซื้อห่วงยางว่ายน้ำอันใหม่ให้กับน้องสาว แต่พี่ชายกลับเอามาเล่น เป่าแล้วก็เตะไปมาในห้องรับแขก จนห่วงยางว่ายน้ำไปโดนเอาเตารีดที่ร้อนและละลายจนพัง พี่ชายจึงรีบเอาไปซุกไว้ในลิ้นชักลึกๆ หวังว่าจะไม่มีใครรับรู้ เมื่อน้องสาวอยากจะไปว่ายน้ำและหาห่วงยางไม่เจอ จนกระทั่งพี่เลี้ยงไปเจออยู่ในลิ้นชักและนำมาให้คุณพ่อ และเมื่อคุณพ่อถามถึงรอยละลาย ก็ไม่มีลูกคนไหนตอบเลย … การสารภาพ การกลับใจ และการถ่อมตัวเองนั้น ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ หากเราไม่มั่นใจในความสัมพันธ์ที่เรามี เรายังอยู่ในความกลัว หรือยังไม่เข้าใจความรักที่แท้จริง

ในสมัยผู้เผยพระวจนะ โยเอล พระเจ้าได้ลงโทษชนชาติอิสราเอลที่ไม่เชื่อฟังผู้เผยพระวจนะ และยังอยู่ในทางของการกราบไหว้รูปเคารพ และอนุญาตให้ฝูงตั๊กแตนป่าได้บินมากินผลผลิตของการปลูกข้าวและผักผลไม้จนไม่เหลืออะไรเลย การกันดารอาหารก็เกิดขึ้น พร้อมทั้งโรคภัยไข้เจ็บ และในที่สุดพระเจ้าจึงให้วิธีที่มนุษย์จะกลับมาหาพระองค์ “พวกเจ้าจงกลับมาหาเราด้วยสุดใจ ด้วยการอดอาหาร การร้องไห้ และการโอดครวญ” การกลับใจและสารภาพที่แท้จริง ไม่จำเป็นจะต้องก้มลงกราบเท้า หรือใช้น้ำตามาพิสูจน์ แต่พระเจ้าบอกว่า “จงฉีกใจของพวกเจ้า ไม่ใช่ฉีกเสื้อของเจ้า” การกลับใจที่แท้จริงจะต้องเป็นการทำลายจิตใจ ทัศนคติ ความคิด และความเชื่อเดิม คนอิสราเอลจะต้องหันกลับมา เชื่อ ศรัทธา เดินตาม ทำตามสิ่งที่พระเจ้าขอให้เราทำ

เพราะ….

เพราะว่าพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและพระกรุณา พระองค์กริ้วช้าและบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และเปลี่ยนพระทัยไม่ลงโทษ 'พระเจ้าสัญญากับคนของพระองค์ ถึงความรักมั่นคง และการอภัยอย่างสมบูรณ์แบบโดยที่ไม่จำเป็นต้องมีจำนวนเงิน 30 ล้านบาทเพื่อมาไถ่โทษ หรือต้องซื้อบทสวดมานั่งสวดหลายรอบ การอภัยของพระองค์มาจากเหตุผลเดียว ความรักที่พระองค์มีต่อเรา และอยากจะเห็นเราเป็นคนที่ดียิ่งขึ้น

ในช่วงชีวิตของเราทุกวันนี้ เรามั่นใจในความรักของพระเจ้าหรือ พระคุณและพระกรุณาที่เปี่ยมล้นของพระองค์จริงๆหรือเปล่า? เรากล้าที่จะสารภาพความผิดของเราอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่? เรากล้ายอมรับผิด เรากล้าชี้นิ้วมาที่ตัวของเรา และให้ชีวิตของเราพึ่งพาในพระคุณของพระองค์จริงๆ ขอให้ในสัปดาห์ที่จะถึงนี้ เราได้มีโอกาสเรียนรู้ ฝึกฝน ปฏิบัติ ในเรื่องของการสารภาพความผิดบาปของเรา และให้เราได้มีประสบการณ์กับพระคุณความรักของพระองค์ด้วยตัวของเราเอง

อาจารย์ วาระ มีชูธน

คำถาม

1. เรามีข้ออ้างอะไรบางเมื่อเราไม่อยากยอมรับผิด ?

2. การฉีกใจ แตกต่างจากการฉีกเสื้ออย่างไร ?

3. ท่านเคยมีประสบการณ์แบบนี้บ้างไหม? 'ถ้าเราสารภาพบาปของเรา พระองค์ทรงซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม ก็จะทรงโปรดยกบาปของเรา และจะทรงชำระเราให้พ้นจากการอธรรมทั้งสิ้น ' 1 ยอห์น 1:9